ประวัติความเป็นมาของสมาคมผู้ผลิตและส่งออกน้ำยางข้นไทย
ความเป็นมา ปี 2529-2530 ผู้ประกอบการยางพาราไทย ได้ขยายการลงทุนผลิตน้ำยางข้น เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ตามความต้องการของตลาดโลกที่มีเพิ่มขึ้นมาก จากปัญหา"โรคเอดส์" ต่อมาประมาณกลางปี 2530
ผู้ผลิตน้ำยางข้นไทยประสบปัญหาเรื่องภาษีอากรขาออกน้ำยางข้นไปต่างประเทศซึ่งรัฐบาลจัดเก็บในอัตราที่ สูงกว่าประเทศคู่แข่งมาก ทำให้ผู้ประกอบการไม่สามารถแข่งขันได้ กลุ่มผู้ผลิตน้ำยางข้น จึงร่วมกับหอการค้าจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เสนอปัญหาดังกล่าวให้รัฐบาลของ ฯพณฯ พล.อ เปรม ติณสูลานนท์ ทราบ และต่อมา นายประมวล สภาวสุรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้เดินทางมารับทราบปัญหาจากผู้ประกอบการผลิตน้ำยางข้นที่อำเภอนาบอน จังหวัดนครศรีธรรมราช
เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2530 และเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2530 ผู้ประกอบการผลิตน้ำยางข้นได้เสนอหนังสือแจ้งร้องเรียนถึงความเดือดร้อนดังกล่าวต่อรัฐบาล ผ่านทางหอการค้าจังหวัดนครศรีธรรมราช และเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2530 รัฐบาลเห็นชอบให้มีการแก้ไขปัญหาโดยมอบหมายให้ สำนักงานส่งเสริมการลงทุน (BOI) และทรวงอุตสาหกรรม อนุมัติยกเว้นการเรียกเก็บภาษีอากรขาออกแก่ผู้ผลิตน้ำยางข้นเป็นเวลา 1 ปี (เดิมเก็บอัตราภาษีส่งออก 30 % ของราคาขาย) ทำให้สามารถแข่งขันกับประเทศคู่แข่งได้
การจัดตั้งเป็นชมรม
เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2531 กลุ่มผู้ประกอบการผลิตน้ำยางข้น นำโดย นายยศ พันธุ์พิพัฒน์ ประธาน บริษัทนาบอนรับเบอร์ แอนด์ ลาเท็กซ์ และคณะ ได้ประชุมร่วมกันที่ โรงแรม ไทยโฮเต็ล อำเภอเมืองจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เล็งเห็นถึงความจำเป็นในการรวมตัวกันของผู้ประกอบการเพื่อช่วยเหลือสมาชิกในกลุ่มจึงได้ลงมติเห็นชอบร่วมกันให้จัดตั้ง "ชมรมผู้ผลิตน้ำยางข้นแห่งประเทศไทย" และจดทะเบียน เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2531 โดยมีผู้ก่อตั้งทั้งหมด 5 บริษัท บริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คช์คอร์ปอร์เรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) , บจก. ถาวรอุตสาหกรรมยางพารา(1982) , บริษัท นาบอนรับเบอร์ จำกัด , บริษัท ที.ที.ลาเท็กซ์แอนด์โปรดักส์ จำกัด , บริษัท ศรีเจริญลาเท็กซ์ จำกัด ที่ประชุมเลือก นายยศ พันธุ์พิพัฒน์ เป็นประธานชมรมฯเป็นคนแรก ชมรมผู้ผลิตน้ำยางข้นแห่งประเทศไทย จึงเป็นที่แลกเปลี่ยนความคิดเห็นของสมาชิกในปัญหาต่างๆรวมถึงข่าวสาร ในทุกเรื่อง ทั้งเทคนิคในการผลิต แรงงาน การตลาดต่างประเทศ รวมถึงนโยบายเกี่ยวกับยางพาราของรัฐบาล
การจัดตั้งเป็นสมาคม
พ.ศ. 2538 คณะกรรมการชมรมฯได้หารือกันเพื่อยกฐานะขององค์กร จากชมรม
มาเป็นสมาคม เพื่อรองรับกิจกรรมที่มีมากขึ้น จึงได้ขออนุญาตให้จัดตั้งเป็นสมาคมการค้าและได้รับใบอนุญาตสมาคมเมื่อวันที่ 14 กันยายน 2538 ใช้ชื่อ
"สมาคมผู้ผลิตและส่งออกน้ำยางข้นไทย" มีนายถาวร เรืองวรุณวัฒนา ประธาน บริษัท ถาวรอุตสาหกรรมยางพารา (1982) จำกัด ดำรงตำแหน่งเป็นนายกสมาคมฯเป็นคนแรก ได้ใช้สำนักงานของ บริษัทถาวรอุตสาหกรรมยางพารา (1982) จำกัด เป็นที่ทำงานชั่วคราว ต่อมาเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2547 ได้รับการอนุเคราะห์สถานที่จากสมาคมยางพาราไทยเป็นสำนักงาน เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2547 ได้จดทะเบียนเปลี่ยนชื่อเป็น "สมาคมน้ำยางข้นไทย"
การจัดหาสำนักงานถาวร
ปี 2552 สมาคมฯ ได้สมาชิกฯ ได้ร่วมมือกันบริจาคทุนทรัพย์ เพื่อซื้ออาคารสำนักงานเป็นที่ทำการของสมาคมน้ำยางข้นไทยเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2552 เลขที่ 60 ถนนโชติวิทยะกุล 3 ตำบลหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา 90110 และย้ายที่ทำการของสมาคมฯ เมื่อ วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2553 ทำพิธีเปิดที่ทำการอย่างเป็นทางการในวันที่ 29 มีนาคม 2554
กิจกรรมของสมาคม
ตลอด 48 ปี ของการรวมตัวของผู้ผลิตน้ำยางข้นจนสามารถตั้งเป็นสมาคมน้ำยางข้นไทย
ทำให้สมาคมฯ เป็นศูนย์กลางของการดำเนินธุรกิจน้ำยางข้น และได้ขยายกิจกรรมออกไปเรื่อย ๆ จนเป็นที่รู้จักในวงการอุตสาหกรรมยาง และได้ร่วมกิจกรรมทั้งภาครัฐ องค์กรต่างๆทั้งภายในและต่างประเทศ
การบริหารจัดการ
6.1 คณะผู้บริหาร จนถึงปัจจุบัน มีนายกสมาคมฯ ดังมีรายนามต่อไปนี้
สมัยที่ 1 |
วาระปี 2539 - 2541 |
ดร.ถาวร เรืองวรุณวัฒนา |
สมัยที่ 2 |
วาระปี 2541 - 2543 |
ดร.ถาวร เรืองวรุณวัฒนา |
สมัยที่ 3 |
วาระปี 2543 - 2545 |
ดร.ถาวร เรืองวรุณวัฒน |
สมัยที่ 4 |
วาระปี 2545 - 2547 |
ดร.ถาวร เรืองวรุณวัฒนา |
สมัยที่ 5 |
วาระปี 2547 - 2549 |
นายวรเทพ วงศาสุทธิกุล |
สมัยที่ 6 |
วาระปี 2549 - 2551 |
นายวรเทพ วงศาสุทธิกุล |
สมัยที่ 7 |
วาระปี 2551 - 2553 |
ดร.ถาวร เรืองวรุณวัฒนา |
สมัยที่ 8 |
วาระปี 2553 - 2555 |
ดร.ถาวร เรืองวรุณวัฒนา |
สมัยที่ 9 |
วาระปี 2555 - 2557 |
นายอภิชาติ พันธุ์พิพัฒน์ |
สมัยที่ 10 |
วาระปี 2557 - 2559 |
นายอภิชาติ พันธุ์พิพัฒน์ |
สมัยที่ 11 |
วาระปี 2559 - 2561 |
นายชัยพจน์ เรืองวรุณวัฒนา |
6.2 นโยบายบริหารของสมาคมน้ำยางข้นไทย
- 6.2.1 ให้ความร่วมมือกับภาครัฐในทุกมิติเพื่อช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรสวนยางให้สามารถขายยางได้ในราคาที่ยุติธรรม
- 6.2.2 ส่งเสริมและสร้างความสมัครสมานสามัคคีในหมู่สมาชิก
- 6.2.3 เพื่อให้สินค้าน้ำยางข้นของไทย มีคุณภาพมาตรฐาน เป็นที่ต้องการของลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ
- 6.2.4 ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ เอกชนและต่างประเทศ อย่างใกล้ชิดเพื่อประโยชน์ของสมาชิกและประเทศไทย
- 6.2.5 เป็นแหล่งข้อมูลข่าวสาร ที่สำคัญ ในด้านต่างๆให้แก่สมาชิกอย่างสม่ำเสมอและทันสมัย
- 6.2.6 ประกาศราคาวัตถุดิบน้ำยางสด และน้ำยางข้น ประจำวัน
- 6.2.7 ดำเนินกิจกรรมของสมาคมทั้งภายใน และต่างประเทศ รวมถึงมีการเยี่ยมเยียน สร้างความสัมพันธ์ กับลูกค้าต่างประเทศ
- 6.2.8 เป็นผู้นำ และให้ความร่วมมือสนับสนุนงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยางพารา โดยเน้นส่วนที่เกี่ยวข้องกับน้ำยางข้นเป็นหลัก
- 6.2.9 บริหารและดำเนินการกิจกรรมของสมาคมฯ ให้เป็นไปตามข้อบังคับของสมาคมฯ อย่างเคร่งครัด
จำนวนสมาชิก
ปัจจุบันสมาคมน้ำยางข้นไทย มีสมาชิกทั้งหมด 81 ราย ประกอบด้วย
- 7.1 สมาชิกสามัญ จำนวน 49 ราย
- 7.2 สมาชิกวิสามัญ จำนวน 29 ราย และ
- 7.3 สมาชิกกิตติมศักดิ์ จำนวน 3 ราย
- รวมมีสมาชิกทั้งสิ้น 81 ราย
|