(14 ธ.ค. 67) ณ โรงแรมไดมอนด์พลาซ่า จ.สุราษฎร์ธานี  การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) โดย นายโกศล บุญคง รองผู้ว่าการด้านบริหาร พร้อมทีมผู้บริหาร กยท. เข้าร่วม โครงการสัมมนาการสร้างพลังขับเคลื่อนการพัฒนาภาคการเกษตรในระดับพื้นที่ โดยมี นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ เป็นประธานเปิดการสัมมนา เน้นย้ำขับเคลื่อนงานตาม 9 นโยบายสำคัญของกระทรวง พร้อมเปิดเวทีบูรณาการระดมความเห็นร่วมกับคณะผู้บริหารหน่วยงานสังกัดกระทรวงฯ มุ่งแก้ไขปัญหาสินค้าเกษตร ใน จ.สุราษฎร์ฯ ด้าน กยท. เสนอแนวทางขับเคลื่อนครอบคลุมทุกมิติ "การผลิต-การแปรรูป-การตลาด"

นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวขณะเป็นประธานเปิด โครงการสัมมนาการสร้างพลังขับเคลื่อนการพัฒนาภาคการเกษตรในระดับพื้นที่ ว่า รัฐบาลได้กำหนดนโยบายด้านการเกษตรเร่งด่วนที่ต้องทำทันที คือการยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกร ด้วยการเปลี่ยนการทำเกษตรแบบดั้งเดิมให้เป็นเกษตรที่ทันสมัย โดยใช้แนวคิด ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ กระทรวงเกษตรฯ จึงกำหนด 9 นโยบายสำคัญเพื่อขับเคลื่อนให้บรรลุตามเป้าหมายดังกล่าว ซึ่งส่วนสำคัญที่จะนำพา

ภาคการเกษตรให้ก้าวสู่ระดับที่ดีขึ้นได้ คือ บุคลากรของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ ที่จะต้องมีความรู้ ความสามารถ และมีศักยภาพที่จะช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่ได้อย่างเต็มที่ โครงการสัมมนาฯ ในครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มศักยภาพการปฏิบัติงานของบุคลากรในกระทรวงเกษตรฯ ให้สามารถขับเคลื่อนการพัฒนาภาคเกษตรในระดับพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยนำร่องในจังหวัดสุราษฎร์ธานีที่มีหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ ดูแลและรับผิดชอบ ให้การส่งเสริมสินค้าเกษตร ครอบคลุมทั้งกลุ่มปาล์มน้ำมัน ยางพารา ผลไม้ สินค้าประมง และสินค้าปศุสัตว์ ถือเป็นโอกาสสำคัญที่ทุกหน่วยงานจะได้ร่วมกันบูรณาการความคิดเห็นเพื่อแก้ไขปัญหาสินค้าเกษตรในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีอย่างจริงจัง

ด้าน นายโกศล บุญคง รองผู้ว่าการด้านบริหาร กล่าวถึงนโยบายสำคัญในการแก้ไขปัญหาด้านยางพาราในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยแบ่งเป็นด้านการผลิต ตั้งแต่การพัฒนาพันธุ์ยาง ให้มีการเจริญเติบโตได้ดี ต้านทานโรคและให้ผลผลิตสูง การป้องกันกำจัดโรคใบร่วงชนิดใหม่ในยางพารา การบริหารจัดการพื้นที่ปลูกยาง และใช้ปัจจัยการผลิตที่มีคุณภาพเหมาะสมกับพันธุ์ยาง ช่วยลดต้นทุนการผลิต พร้อมนำงานวิจัยและเทคโนโลยีเข้ามาแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานกรีดยาง โดยการใช้ฮอร์โมนเอทธีลีนและหุ่นยนต์กรีดยางแทนแรงงานคน สามารถเพิ่มปริมาณผลผลิตและเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร โดยจะต้องบูรณาการร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ด้านการแปรรูป ควรส่งเสริมให้เกษตรกรมีความเข้มแข็งผ่านการรวมกลุ่มเป็นสถาบันเกษตรกร เพิ่มความสามารถในการแข่งขันและเพิ่มอำนาจต่อรองในตลาด และด้านการตลาด ส่งเสริมให้สินค้ายางพารามีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล เช่น กฎระเบียบ EUDR การบริหารจัดการสวนยางตามมาตรฐานการจัดการสวนป่าอย่างยั่งยืน เป็นต้น ซึ่งการขับเคลื่อนมาตรการด้านยางพาราที่ครอบคลุมทุกมิติจะนำไปสู่เสถียรภาพด้านราคายางได้อย่างยั่งยืน

ที่มา : การยางแห่งประเทศไทย