นายณกรณ์ เผยถึงการช่วยเหลือของ กยท. เกี่ยวกับโรงงานแปรรูปยางพารา ในพื้นที่ อ.เซกา จ.บึงกาฬ ว่า โรงงานแห่งนี้ก่อสร้างขึ้นจากงบประมาณกลุ่มจังหวัดอีสานตอนบน ตั้งแต่ปี พ.ศ.2560 และขึ้นทะเบียนเป็นทรัพย์สินของกรมธนารักษ์ แต่ปัจจุบันไม่ได้ดำเนินการแปรรูปยาง เนื่องจากขาดระบบไฟฟ้า น้ำประปา ระบบกำจัดน้ำเสีย และเงินทุนหมุนเวียน วันนี้ รมว.เกษตรฯ จึงลงพื้นที่ เพื่อพูดคุยและรับฟังปัญหา พร้อมมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าดำเนินการช่วยเหลือด้านต่างๆ เพื่อให้โรงงานสามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ ซึ่งในส่วนของ กยท. จะให้ความช่วยเหลือภายหลังสหกรณ์รายใหม่จัดตั้งเรียบร้อยตามกระบวนการของสหกรณ์ และมาขึ้นทะเบียนกับ กยท. จึงจะสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนจากกองทุนพัฒนายางพารา ตามมาตรา 49 ได้ และ กยท. จะสนับสนุนในการจัดหาแหล่งวัตถุดิบยางพาราจากเกษตรกรในพื้นที่ เพื่อป้อนเข้าสู่กระบวนการแปรรูปยางของโรงงานต่อไป

 

นายณกรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในขณะเดียวกัน การลงพื้นที่ครั้งนี้ ได้รับเกียรติจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ มอบเงินทุนสนับสนุนจากกองทุนพัฒนายางพารา มาตรา 49 (3) เพื่อเป็นเงินอุดหนุนให้แก่เกษตรกรชาวสนยาง จ.บึงกาฬ จำนวน 3 ราย รายละ 100,000 บาท ภายใต้โครงการส่งเสริมและสนับสนุนเกษตรกรชาวสวนยางเพื่อยกระดับเศรษฐกิจฐานรากด้วย BCG โมเดลโดยการส่งเสริมสนับสนุนเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้วยระบบโซล่าเซลล์ (Solar Cell) และมอบเงินให้กับเกษตรกรฯ ในพื้นที่ ที่ได้รับการคัดเลือกจากโครงการสนับสนุนเกษตรกรชาวสวนยางต้นแบบด้วยเกษตรกรรมยั่งยืน จำนวน 1 ราย เป็นเงิน 500,000 บาท