"เกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย" เผยภาคเอกชน จับตาสงครามตะวันออกกลาง กังวลสถานการณ์บานปลาย ดันราคาน้ำมันสูงขึ้น รวมถึงค่าระวางเรือที่มีโอกาสปรับขึ้นไปถึง 12,000-13,000 ดอลลาร์ต่อตู้ กระทบต้นทุนธุรกิจพุ่ง
วันนี้ (2 ตุลาคม 2567) นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ภาคเอกชน ได้เกาะติดสถานการณ์สงครามในตะวันออกกลางอย่างใกล้ชิด เพราะผลกระทบจากสงครามที่ปะทุขึ้นในขณะนี้ จะกระทบอย่างแน่นอนต่อเรื่องของราคาพลังงาน และราคาน้ำมัน
แม้ว่าในปัจจุบันราคาน้ำมันจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 70-80 เหรียญดอลลาร์/บาเรล ซึ่งปัจจุบันนี้อาจจะยังไม่กระทบมากนัก แต่อย่างไรก็ดีจากสถานการณ์ที่ยังมีความไม่แน่นอน ภาคเอกชนเองก็ยังเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป
"หากสงครามในตะวันออกกลางขยายออกไปวงกว้าง อาจส่งผลให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้น และจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อเส้นทางเดินเรือ กระทบค่าระวางเรือที่พุ่งสูงขึ้น ต้องปรับเปลี่ยนทางเดินเรือใช้เวลานาน 2 สัปดาห์ ไปอ้อมแหลมกู๊ดโฮป คล้ายกับปลายปีที่แล้วที่ช่วงหนึ่งมีการโจมตีครั้งใหญ่ในทะเลแดงซึ่งเป็นเส้นทางขนส่งสินค้าหลักจากตลาดเอเชียไปยังยุโรป" นายเกรียงไกร ระบุ
ขณะเดียวกันจากสถานการณ์ดังกล่าวยังมีผลกระทบไปถึงราคาตู้คอนเทนเนอร์มาใช้ในการขนส่งสินค้า โดยก่อนหน้านี้ตู้คอนเทนเนอร์ขนาด 40 ฟุต มีราคาเพิ่มไปถึง 12,000-13,000 ดอลลาร์ต่อตู้ ทั้งที่ราคาตามปกติอยู่เพียงแค่ 3,000-4,000 ดอลลาร์ต่อตู้เท่านั้น
"แม้สถานการณ์คลี่คลายลงไปบ้างแล้ว โดยราคาตู้คอนเทนเนอร์ลดลงไปอยู่ที่ระดับ 8,000-9,000 ดอลลาร์ฯ ซึ่งหากสถานการณ์ไม่บานปลายเชื่อราคาจะไม่ปรับสูงขึ้นไปแบบเดิมอีก แต่ราคาเช่นนี้ก็ยังถือว่าสูงอยู่ และจะส่งผลกระทบต่อต้นทุนได้" นายเกรียงไกร ยอมรับ
ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ |