นายชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.นอร์ทอีส รับเบอร์ (NER) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังของปี 67 มีแนวโน้มดีต่อเนื่อง จากครึ่งปีแรก เนื่องจากปัจจัยบวกราคายางพาราปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ในระดับสูง ซึ่งปัจจุบันมีคำสั่งซื้อ (Order) ล่วงหน้าครอบคลุมถึงไตรมาส 4/67 แล้ว
ขณะที่ในช่วงไตรมาส 3/67 บริษัทจะเริ่มส่งออกยางมาตรฐานสหภาพยุโรป (อียู) ที่เริ่มบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยสินค้าปลอดการตัดไม้ทำลายป่า หรือ EU Deforestation Regulation (EUDR) ภายในสิ้นปี 67 ซึ่งบริษัทจะมีการส่งออกยาง EUDR ล็อตแรกให้บริษัทยางสัญชาติจีนในเดือน ส.ค.67 และส่งออกมากขึ้นในไตรมาส 4/67
นายชูวิทย์ กล่าวว่า แนวโน้มการส่งออกยางพารายังดีอย่างต่อเนื่อง โดยจากรายงานของกระทรวงพาณิชย์พบว่า การส่งออกยางพาราขยายตัวต่อเนื่อง 8 เดือน ติดต่อกัน สำหรับโดย 6 เดือนแรกของปี ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนมิถุนายน ขยายตัว 30.6% โดยการเติบโตจะมาจากตลาดจีนที่มีความต้องการยางพาราที่มากขึ้นอย่างที่ได้กล่าวไป โดยเฉพาะการซื้อยางพาราเพิ่มขึ้นเพื่อรักษาระดับสต๊อก อีกทั้งอุตสาหกรรมยานยนต์ในต่างประเทศก็มีทิศทางที่ดีก็เชื่อว่าจะช่วยสนับสนุนผลประกอบการของบริษัทได้ด้วย
ขณะที่ผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 67 เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน มีปริมาณขาย 205,071 ตัน ลดลง 51,981 ตัน หรือลดลง 20.22% คิดเป็นรายได้จากการขายรวม 12,351.07 ล้านบาท ลดลง 460.90 ล้านบาทหรือลดลง 3.60% แต่กำไรสุทธิเท่ากับ 932.36 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 7.55% ของรายได้จากการขายรวม เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน บริษัทฯ มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 160.77 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 20.84%
ทั้งนี้ รายได้จากการขายงวด 6 เดือนแรกของปี 67 ปรับตัวลดลงจากผลิตภัณฑ์ยางแท่ง (STR20, STR-Mixture) ที่บริษัทฯได้รับคำสั่งซื้อจากลูกค้าต่างประเทศเป็นสำคัญ ทำให้สัดส่วนยอดขายต่างประเทศลดลงเหลือ 22% จาก 38% ในปี 66
สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 2/67 เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน มีปริมาณขาย 90,451 ตัน ลดลง 39,028 ตัน หรือลดลง 30.14% คิดเป็นรายได้จากการขายรวม 5,809.22 ล้านบาท ลดลง 748.36 ล้านบาท หรือลดลง 11.41% โดยการลดลงของรายได้จากการขายเป็นการลดลงด้านปริมาณอยู่ที่ 1,976.58 ล้านบาท และเป็นการเพิ่มขึ้นด้านราคาอยู่ที่ 1,228.23 ล้านบาท ด้านกำไรสุทธิสำหรับงวดไตรมาส 2/67 เท่ากับ 478.75 ล้านบาท หรือคิดเป็น 8.24% ของรายได้จากการขายรวม เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 21.54 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 4.71%
ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) |