“ผลจากที่สหกรณ์ได้เข้าร่วมโครงการ EUDR ทำให้ชาวสวนยางได้รับราคายางที่ดีขึ้น เนื่องจากตามกฎหมาย EUDR ถ้าชาวสวนยางสามารถบ่งบอกจุดที่เป็นที่ตั้งของสวนยางได้ว่า เป็นสวนยางที่ไม่บุกรุกป่า ไม่มีการทำลายสิ่งแวดล้อมต่างๆ แล้วสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ ยางที่นำมาขายกับสหกรณ์ได้รับราคาที่สูงขึ้นกว่ายางทั่วไปประมาณ กก.ละ 20 บาท และสหกรณ์ไปซื้อน้ำยางจากเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการจะได้ราคาที่สูงขึ้นด้วย ทำให้เกษตรกรได้รับราคาน้ำยางสดที่ดีขึ้น โครงการนี้จะเป็นประโยชน์ต่อชาวสวนยางได้เป็นอย่างมาก เฉพาะเรื่องของราคาอย่างเดียวก็ทำให้เกษตรกรได้รับราคาที่ดีขึ้น กรมส่งเสริมสหกรณ์จะขยายผลไปยังสหกรณ์อื่นๆ ที่เกษตรกรสามารถบ่งบอกได้ว่าสวนยางของตนเองมีเอกสารสิทธิถูกต้อง ไม่ผลิตจากสวนยางที่บุกรุกทำลายป่าหรือป่าต้นน้ำ ถ้าสามารถยืนยันตรงนี้ได้ก็จะสามารถเข้าร่วมโครงการได้”
นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวหลังนำทีมผู้บริหารกรมส่งเสริมสหกรณ์ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและติดตามการดำเนินงานของสหกรณ์กองทุนสวนยางควนเปล จำกัด ต.ท่าเรือ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ที่คณะกรรมการ ฝ่ายจัดการ สมาชิกสหกรณ์ร่วมแรงร่วมใจกันจนสามารถดำเนินธุรกิจได้ประสบผลสำเร็จ มีการรวมซื้อรวมขาย รวบรวมน้ำยางพาราสดนำมาแปรรูป ตลอดจนการเชื่อมโยงเครือข่ายในการรวบรวมน้ำยางสด และยังดำเนินงานตามกฎหมาย EUDR (European Union Deforestation-free Regulation) ทำให้ขายยางพาราได้ราคาดีขึ้น และได้รับการยอมรับจากต่างชาติ
สหกรณ์กองทุนสวนยางควนเปล จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2536 ดำเนินธุรกิจมาเป็นระยะเวลา 31 ปี ปัจจุบันสมาชิก 102 คน ทุนดำเนินงาน 1.565 ล้านบาท สหกรณ์ดำเนินธุรกิจรวบรวมผลผลิต ธุรกิจจัดหาสินค้ามาจำหน่าย และธุรกิจแปรรูปผลิตผลทางการเกษตรและการผลิตสินค้า ซึ่งสหกรณ์ ดำเนินการแปรรูปยาง พารา โดยสหกรณ์กู้เงินกองทุนพัฒนาสหกรณ์ ตามวัตถุประสงค์ในการรวบรวมและแปรรูปยาง พารา จำนวน 1 ล้านบาท เป็นแหล่งเงินทุนหมุนเวียน หลักในการดำเนินธุรกิจ และสามารถใช้อุปกรณ์การตลาดที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐในการรวบรวมและแปรรูปยางพารา
โดยรับซื้อน้ำยางสดของสมาชิกเกษตรกรในพื้นที่ รวมทั้งการเชื่อมโยงเครือข่ายในการรวบรวมน้ำยางสด เช่น สหกรณ์การเกษตร กรป.กลาง มะปรางมันปัตตานี จำกัด สหกรณ์กองทุนสวนยางคลองช้าง จำกัด สหกรณ์กองทุนสวนยางโคกพันตัน จำกัด สหกรณ์ สามารถรวบรวมน้ำยางสดเพื่อผลิต 430,918.62 กก. มูลค่า 7,359,258 บาท เข้ากระบวนการแปรรูป 153,517 กก. คิดเป็นเงิน 8,665,540.60 บาท คิดเป็นร้อยละ 69.76 ของปริมาณธุรกิจรวม
นอกจากนี้ สหกรณ์กองทุนสวนยางโคกพันตัน จำกัด ยังได้นำนโยบาย “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” มาเป็นแนวทางในการปฏิบัติงาน โดยเน้นขับเคลื่อนงานส่งเสริมสร้างสินค้าเกษตรมูลค่าสูง ควบคู่ไปกับการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างคุ้มค่า เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยการบูรณาการร่วมกับหน่วยงาน เช่น การสนับสนุนจากการยางแห่งประเทศไทยในการเข้าร่วมขับเคลื่อนงานตามกฎหมาย EUDR รวมทั้งจะต้องการจัดการสวนยางพาราที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและไม่ส่งผลกระทบต่อสังคม และใช้ระบบการประมูลขายยางผ่านระบบตลาดซื้อขายยางพาราให้กับตลาดกลางยางพาราจังหวัดยะลา ส่งผลให้สหกรณ์ขายยางพาราในราคาที่สูงกว่าตลาด
และยังได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากพลังงานจังหวัดปัตตานี เรื่องบ่อบำบัดน้ำเสียจากกระบวนการผลิตยางพารา ใช้น้ำเสียแปรเปลี่ยนเป็นพลังงาน สามารถช่วยลดต้นทุนการผลิตของสหกรณ์ ทำให้ต้นทุนการผลิตลดลงกิโลกรัมละ 0.40 บาท หรือปีละ 58,000 บาท
ทั้งยังผลิตปุ๋ยสั่งตัด โดยกู้เงินกองทุนพัฒนาสหกรณ์ 1 ล้านบาท ส่งผลให้สามารถจัดหาแม่ปุ๋ย และผลิตปุ๋ยสั่งตัดจำหน่าย ทำให้สมาชิกสามารถลดต้นทุนการใส่ปุ๋ยได้กระสอบละ 200 บาท หรือลดลงไร่ละประมาณ 600 บาท ลดต้นทุนค่าปุ๋ยไปได้ร้อยละ 16.67
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
สมาคมน้ำยางข้นไทย 60 ถ.โชติวิทยะกุล 3 ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา 90110 Tel. 0 7455 9508 , 09 5065 2772 E-mail tla.latex@gmail.com, contact@tla-latex.org