|
 
 
 
วันที่ / Date 22/11/2567
66.40 บาท/กก. (THB/Kg.)
 
วันที่ / Date 21/11/2567
1,560.00 USD/MT (@ B/USD)
  •   กยท.พลิกวิกฤติ ดันสินค้ายางพาราไทยปลอดทำลายป่า ชูเป็นจุดแข็งขายทั่วโลก new

นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เปิดเผยถึงมาตรการกฎหมาย EU Deforestation-free Products Regulation (EUDR)  เป็นกฎหมายที่ให้ความสำคัญในเรื่องสิ่งแวดล้อม ซึ่งไม่ใช่แค่สหภาพยุโรป (อียู) เพียงอย่างเดียว เรียกว่า ทั้งโลก กำลังให้ความสำคัญในเรื่องนี้ แต่อียูได้ริเริ่มแล้วผลักดันให้เป็นรูปธรรมแล้ว โดยการออกกฎหมายสินค้าปลอดจากการบุกรุกป่าและทำลายป่า ซึ่งเราเรียกว่า “EUDR”

ในส่วนของอียูเองพยายามบอกเราว่า วันนี้จะจำกัดควบคุมการนำเข้าและการส่งออกสินค้าที่มาจากการบุกรุกป่าและทำลายป่า ซึ่งประเทศไทยเองก็เห็นด้วยกับนโยบายนี้ และได้ขับเคลื่อนนโยบายนี้อย่างเป็นรูปธรรม โดยหลักนโยบายนี้มีอยู่ 3 เรื่อง คือ 1 ต้องพยายามแสดงพื้นที่ภูมิศาสตร์ว่าผลผลิตเหล่านั้นไม่ได้มาจากการบุกรุกป่า หรือมีการทำลายป่า รวมถึงให้ความสำคัญในเรื่องสิ่งแวดล้อมด้วย 2 การดำเนินการจะต้องสอดคล้องกับตัวของกฎหมายแต่ละประเทศ และสุดท้ายก็ต้องทำตามของกระบวนการของอียูถึงจะสามารถดำเนินการส่งออกและนำเข้าในส่วนของยุโรปได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย

นายณกรณ์ กล่าวว่า ปัจจุบันสถานการณ์ของประเทศไทย มีความพร้อม และมีความได้เปรียบกว่าประเทศผู้ผลิตยางอื่น เพราะประเทศไทยมีหน่วยงานที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการขึ้นทะเบียนเกษตรกรชาวสวนยางที่แจ้งข้อมูลการปลูกยางและพื้นที่สวนยางกับ กยท. อยู่แล้ว

นอกจากนี้ ในรัฐบาลที่ผ่านมาเราได้มีนโยบายต่างๆ ในการช่วยเหลือเกษตรกรทำให้ต้องมีการอัพเดทข้อมูลการขึ้นทะเบียนเกษตรกรชาวสวนยางให้เป็นปัจจุบัน  ซึ่งก็มองว่าวันนี้ประเทศไทยมีความพร้อมกับการรองรับมาตรการนี้จะเห็นได้ว่าหลายมาตรการที่ออกมาจะให้ความสำคัญในเรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก รวมทั้งในเรื่องการบริหารจัดการการตรวจสอบย้อนกลับถึงแหล่งกำเนิดของผลิตภัณฑ์ยางพารา เป็นนโยบายสำคัญและได้ดำเนินการมาระยะหนึ่งแล้ว เพื่อให้ได้ผลผลิตเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

นายณกรณ์ กล่าวว่า ส่วนในเรื่องภาษีที่ดินในพื้นที่สวนยางตามประกาศกระทรวงการคลังและกระทรวงมหาดไทย เรื่อง หลักเกณฑ์การใช้ประโยชน์ในการประกอบเกษตรกรรม (ฉบับที่ 2) ประกาศ ณ วันที่ 31 มกราคม 2566 ที่มีการกำหนดขึ้นต่ำของการเสียภาษีเกษตรกรรมจะต้องมีสวนยางอยู่ 80 ต้น/ไร่  ทาง กยท. ได้ให้ความสำคัญในเรื่องนี้ เพราะบริบทในการทำสวนยางเปลี่ยนไปแล้ว อยากให้พิจารณาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสถานการปัจจุบันของเกษตรกรด้วย

แต่เดิมที่บอกว่า 80 ต้น/ไร่ อาจจะเป็นการทำสวนยางเชิงเดี่ยว แต่วันนี้พี่น้องชาวสวนยางสวนใหญ่ทำสวนยางแบบผสมผสาน แบบสวนยางยั่งยืน มีการปลูกยางผสมกับพืชอื่น จึงลดจำนวนการปลูกต้นยางต่อไร่ลง เพื่อลดความเสี่ยงทางด้านรายได้จากราคายางที่ผันผวน มีรายได้เสริมจากพืชอื่น ให้เกิดความสมดุลระหว่างรายได้กับรายจ่ายของชาวสวนยาง

นอกจากนี้ในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มีการประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับยางพาราในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้แก่ สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (สป.กษ.) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กรมส่งเสริมการเกษตร (กสส.) และกรมวิชาการเกษตร (กวก.)  ได้มีแนวทางร่วมกันที่จะเสนอให้กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงการคลัง ที่รับผิดชอบในการจัดเก็บภาษีที่ดิน พิจารณาทบทวนหลักเกณฑ์ตาม พ.ร.บ.การยางแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2558  ซึ่งกำหนดอัตราขั้นต่ำของการประกอบการเกษตรต่อไร่ของยางพาราที่ 25 ต้น/ไร่

ที่มา : เนชั่นออนไลน์

Update :  4 กันยายน 2566     เวลา : 09:58:58 น.
 

สมาคมน้ำยางข้นไทย
60 ถ.โชติวิทยะกุล 3 ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา 90110
Tel. 0 7455 9508 , 09 5065 2772
E-mail tla.latex@gmail.com, contact@tla-latex.org

ระบบจัดการข้อมูล | ระบบเช็คอีเมล์
Copyright 2006. www.tla-latex.org All rights reserved.
Powered by ME-FI dot com