น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ ได้ผลักดันแผนพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (Roadmap 30@30) ที่มีเป้าหมายในปี 2573 จะผลิตรถยนต์ไฟฟ้าร้อยละ 30 ของการผลิตรถยนต์ทั้งหมด
ล่าสุดรับทราบและยินดีรายงานของกระทรวงอุตสาหกรรมที่ระบุว่างานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 มียอดจองรถยนต์ไฟฟ้า (EV) อยู่ที่ 9,234 คัน คิดเป็น 21.53% จากยอดจองรถยนต์ทั้งหมดภายในงาน 42,885 คัน เมื่อเทียบกับปี 2565 มียอดจองรถ EV 10%
รองโฆษกรัฐบาล ระบุว่า ยอดจองรถที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว เป็นผลมาจากมาตรการอุดหนุนรถยนต์ไฟฟ้าของภาครัฐทำให้รถ EV มีราคาลดลง ประกอบกับผู้บริโภคเริ่มให้ความเชื่อมั่นในมาตรฐานมากขึ้น ขณะที่ค่ายรถยนต์ต่างๆ มีการเปิดตัวรถไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆ รวมถึงแคมเปญกระตุ้นยอดขายที่น่าสนใจ
อีกทั้งยังมีข่าวดีที่ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของจีนให้ความสนใจจะเข้ามาลงทุนสร้างโรงงานผลิตรถยนต์อีวีในประเทศไทยเพิ่มขึ้นอีกรายคือ GAC AION โดยตั้งเป้าผลิตรถยนต์ EV ในไทยให้ได้ 100,000 คันต่อปี และยังวางแผนขยายไปยังอุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องในการผลิตแบตเตอรี่ด้วย
จากเดิมที่ค่ายรถจากจีนทั้ง NETA และ BYD เริ่มก่อสร้างโรงงานผลิตรถ EV ในไทยแล้วทำให้ทิศทางมุ่งสู่ความเป็นฮับ EV สดใส อีกทั้งจะทำให้เกิดการจ้างงาน ถ่ายทอดเทคโนโลยี และกระจายรายได้สู่ชุมชน
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ยอดจองรถยนต์ EV ที่เพิ่มขึ้น และความสนใจของค่ายรถที่ปักหมุดลงทุนในประเทศไทย ล้วนเป็นผลงานการผลักดันมาตรการส่งเสริมรถ EV ของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่เดินมาถูกทาง ใช้มาตรการได้ตรงจุดที่จะนำไปสู่การสร้างรายได้และเม็ดเงินให้กับประเทศไทยอย่างมหาศาล
ควบคู่ไปกับการคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม การแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อน และฝุ่น PM2.5 ในระยะยาว
ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ |