TLA LATEX
   
 
วันที่ 7-9/06/2568
54.00 บาท/กก.
 
วันที่ 06/06/2568
1,350.00 USD/MT (@ B/USD)
ข่าวสาร
สมาคมน้ำยางข้นไทย
  •   กยท.ลุยดันราคายางพารา 70 บาท ห่วงภาษีทรัมป์-บาทแข็งตัวถ่วง new

กยท.ประกาศดันราคายางกลับไปอยู่ในระดับเดียวกับวันที่ 3 เม.ย. หลังมาตรการ “ภาษีทรัมป์” กดราคาร่วงกว่า 10 บาทต่อกิโลกรัม ชี้ผลพวงขอความร่วมมือเลื่อนกรีดยาง ฝนตกชุก ทำผลผลิตลด ดันราคาขยับ ห่วงนโยบายการค้าสหรัฐ บาทผันผวนทำสะดุด

ราคายางพาราไทยช่วงเดือนมีนาคม 2568 อยู่ในสถานการณ์ที่ดี โดยราคายางก้อนถ้วย DRC100% เฉลี่ยที่ 63.50 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) นํ้ายางสดเฉลี่ย 67.11 บาทต่อ กก. ยางแผ่นดิบเฉลี่ย 68.73 บาทต่ก กก. และยางแผ่นรมควันเฉลี่ย 72.51 บาท ต่อ กก.


อย่างไรก็ดีจากที่โดนัลด์ ทรัมป์ได้ประกาศเก็บภาษีศุลกากรพื้นฐาน (Baseline Tariff) กับประเทศคู่ค้าทั่วโลกในอัตรา 10% เมื่อวันที่ 2 เมษายน และมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2568 และประกาศจะเรียกเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariff) มีผลบังคับใช้วันที่ 9 เมษายน 2568 (แต่ได้เลื่อนการบังคับใช้ออกไป 90 วัน) ส่งผลให้ผู้ประกอบการตื่นตระหนก ประกอบกับระหว่างวันที่ 5-7 เมษายนมีวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์หลายวัน ส่งผลให้ราคายางพาราทุกชนิดหลังกลับมาเปิดการซื้อขายในวันที่ 8 เมษายนร่วงลงกว่า 10 บาทต่อ กก.


นายสุขทัศน์ ต่างวิริยกุล รองผู้ว่าการด้านปฏิบัติการ และรักษาการแทนผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า ราคายางพาราล่าสุด ณ เดือนพฤษภาคมมีทิศทางปรับขึ้นต่อเนื่อง และใกล้กลับไปอยู่ในระดับใกล้เคียงกับเดือนมีนาคมที่ยังไม่มีมาตรการด้านภาษีของทรัมป์


มีปัจจัยสนับสนุนจากที่ กยท.ได้ขอความร่วมมือเกษตรกรเลื่อนการเปิดกรีดยาง 1 เดือน เพื่อช่วยควบคุมปริมาณยางในตลาด และช่วยกระตุ้นราคา นอกจากนี้ยังมีมาตรการสนับสนุนเกษตรกร เช่น โครงการเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุนการผลิต และสินเชื่อระยะสั้นปลอดดอกเบี้ย


“เป้าหมายของกยท.คือจะผลักดันราคายางให้กลับไปยืนอยู่ในระดับเดียวกับวันที่ 3 เมษายนโดยเร็วที่สุด (ยางแผ่นดิบ 66.85 บาทต่อ กก. นํ้ายางสด 68.50 บาท ต่อ กก.ยางแผ่นรมควันชั้น3 71.59 บาทต่อ กก.) ซึ่งหนึ่งในมาตรการสำคัญคือการขอความร่วมมือเกษตรกรเลื่อนการเปิดกรีดยางออกไป 1 เดือนซึ่งได้สิ้นสุดในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งก็รับความร่วมมือจากเกษตร 20-30% ของภาพรวม ทำให้ผลผลิตยางหายไปจากระบบตลาดโลกจำนวนหนึ่งอย่างมีนัยสำคัญ”


ขณะที่ในเวลานี้ในหลายพื้นที่มีฝนตกชุก เป็นอุปสรรคต่อการกรีดยาง และยังทำให้การขนส่งเกิดความล่าช้าส่งผลต่อปริมาณยางในตลาด


สำหรับทิศทางราคายางนับจากนี้ไปจนถึงสิ้นปี มองว่ามีทิศทางปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง มีปัจจัยสนับสนุนจากมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาของภาครัฐ การผลักดันเพื่อเพิ่มการใช้ยางพาราในประเทศ รวมถึงยังมีการผลักดันระบบตรวจสอบย้อนกลับและการเตรียมความพร้อมรองรับกฎหมาย EUDR ของสหภาพยุโรป ซึ่งช่วยเสริมความน่าเชื่อถือของยางพาราไทยในตลาดต่างประเทศ แต่ทั้งนี้ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามใกล้ชิดคือ ความไม่แน่นอนจากนโยบายภาษีของสหรัฐ และอัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวน



ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ

วันที่ :  1 มิถุนายน 2568
 
 

สำนักงาน 60 ถ.โชติวิทยะกุล 3 ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา 90110
โทรศัพท์ 0 7455 9508 , 09 5065 2772
E-mail: tla.latex@gmail.com, contact@tla-latex.org



Copyright 2006. www.tla-latex.org All rights reserved.
Powered by ME-FI dot com