TLA LATEX
   
 
วันที่ 17-19/05/2568
60.50 บาท/กก.
 
วันที่ 16/05/2568
1,440.00 USD/MT (@ B/USD)
ข่าวสาร
สมาคมน้ำยางข้นไทย
  •   วิเคราะห์เบื้องลึก "สหรัฐ-จีน" ถอยลดภาษี หลังสะบักสะบอมทั้งคู่ new

"ผู้เชี่ยวชาญ" วิเคราะห์เบื้องลึกสหรัฐ-จีนยอมถอย สั่งลดภาษีระหว่างกันลง 115% จากได้รับผลกระทบสะบักสะบอมทั้งคู่ ทั้งผู้บริโภคอเมริกันแบกภาระซื้อของแพง โรงงานผลิตในจีนกำลังผลิตวูบหนัก


สร้างเซอร์ไพรส์ไปทั่วโลกหลังผลการเจรจาสหรัฐ-จีน ล่าสุดได้ยอมถอยคนละก้าว โดยสหรัฐจะลดภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนจากเดิม 145% ลดลงเหลือ 30% (ลดลง 115%) และจีนจะลดภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐจาก 125% ลงเหลือ 10% เป็นการชั่วคราวเป็นเวลา 90 วัน โดยทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะดำเนินการภายในวันที่ 14 พฤษภาคม 2568 ซึ่งเบื้องลึก เบื้องหลังเป็นอย่างนั้น ผู้เชี่ยวชาญเศรษฐกิจระหว่างประเทศได้ออกมาวิเคราะห์ ให้เห็นเป็นฉาก ๆ


รองศาสตราจารย์ ดร.อัทธ์  พิศาลวานิช ผู้เชี่ยวชาญเศรษฐกิจระหว่างประเทศและอาเซียน เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า การลดภาษีระหว่างสหรัฐกับจีนล่าสุดถือว่าเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงไปรวดเเร็วมาก เปรียบเสมือนการเล่นละครของทรัมป์ในยุค 2.0 ที่ประกาศขึ้นภาษีสินค้าจีนไปเท่าใดก็ได้ จากหลักสิบเปอร์เซ็นต์ ก่อนหน้านั้นก็จะเพิ่มเป็น 245% และต่อมาลดเหลือ 145%


ฃอย่างไรก็ดีในข้อเท็จจริงเวลานี้ การขึ้นภาษีตอบโต้กันของทั้งสองชาติมหาอำนาจโลก ได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อทั้งสองประเทศ โดยในส่วนของสหรัฐที่เคยพึ่งพาการนำเข้าสินค้าราคาถูกจากจีนเป็นหลัก การขึ้นภาษีสินค้าจีนเป็น 145% เพื่อต่อต้านและลดการนำเข้าสินค้าจากจีนยังผลให้สินค้าจีนเข้าสหรัฐยากขึ้น


โดยข้อมูลในเดือนเมษายนที่ผ่านมา เรือขนส่งสินค้าจากจีนเข้าสหรัฐได้ลดลงไปกว่า 70% และการขึ้นภาษีสินค้าจีนมีผลให้ผู้บริโภคชาวอเมริกันได้รับผลกระทบจากราคาสินค้าที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยห้างค้าปลีกค้าส่งชื่อดังทั่วสหรัฐได้เริ่มปรับขึ้นราคาสินค้า ผลกระทบต่อมาในเดือนพฤษภาคม สินค้าในสหรัฐเริ่มขาดแคลน เนื่องจากสินค้าส่วนใหญ่มาจากจีน


“กรณีสหรัฐจะลดการเก็บภาษีสินค้าจีนลงเหลือ 30% และจีนจะเก็บภาษีสหรัฐ 10% เป็นหนังตัวอย่างเพื่อจะแก้ปัญหาเฉพาะหน้าของทั้งสองประเทศ เนื่องจากผู้บริโภคชาวอเมริกันได้รับความเดือดร้อนจากราคาสินค้าที่สูงขึ้น ขณะที่จีนก็ได้รับผลกระทบเพราะโรงงานผลิตที่เคยมีตลาดใหญ่ที่สหรัฐก็เริ่มลดกำลังการผลิต เพราะส่งของไปขายที่สหรัฐไม่ได้ และส่งผลให้คนว่างงานในจีนสูงขึ้น ดังนั้นถือเป็นไฟต์บังคับที่ทั้งคู่ต้องลดการ์ดลง”


อย่างไรก็ดีตรงนี้ถือเป็นการพักรบหรือผ่อนคลายชั่วคราว โดยการลดภาษีลงครั้งนี้อยู่ในกรอบ 90 วัน แต่ของจริง(ภาษี)ยังต้องเดินหน้าเจรจากันต่อ ซึ่งประเด็นที่สหรัฐจะเจรจากดดันจีน และจะเป็นสิ่งบ่งชี้ว่าการเจรจาจะประสบความสำเร็จหรือไม่ มีอย่างน้อย 6 ประเด็น ได้แก่


1. รัฐบาลจีนต้องห้ามอุดหนุนอุตสาหกรรม หรืออุดหนุนการส่งออก ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ยาก

2. จีนจะปลดล็อกเรื่องการห้ามการส่งออกแร่หายากให้สหรัฐได้หรือไม่ ก็เป็นอีกเรื่องที่ยาก

3.สหรัฐระบุบริษัทสหรัฐที่ไปลงทุนในจีนไม่ต้องถ่ายทอดเทคโนโลยีให้จีน

4.การไม่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของสหรัฐ ทั้งลิขสิทธิ์  สิทธิบัตร และอื่น ๆ

5.การไม่แทรกแซงค่าเงินหยวน ทำให้จีนได้เปรียบทางการค้า

6.เรื่องการละเมิดสิทธินุษยชนชาวอุยกูร์ จีนจะแก้อย่างไร


“ทั้งหมดทั้งปวงนี้จะเริ่มเข้าไปสู่หนังจริง หรือการเจรจาของจริง ซึ่งที่น่าจับตามองคือ การเจรจา และการลดภาษีจะขยายเวลาต่อหรือไม่ ถ้าตกลงกันไม่ได้ใน 5-6 ประเด็นข้างต้น ซึ่งจริงๆ แล้วรอบนี้ที่สหรัฐลดภาษีให้จีนเหลือ 30% สหรัฐถือเป็นฝ่ายได้ เพราะก่อนหน้านี้ในสมัยทรัมป์ 1.0 ที่ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีในปี 2020 เก็บภาษีสินค้าจีนอยู่ที่ 21% ล่าสุดลดลงมาจาก 145% เหลือ 30% ก็ยังถือว่าเป็นภาษีที่สูงอยู่ และยังเป็นฝ่ายได้เปรียบจีน”


ส่วนจีนถือว่าเสมอตัว เพราะยังคงเก็บภาษีสินค้าสหรัฐในอัตราเท่าเดิม เพราะก่อนหน้านี้จีนเก็บภาษีสินค้าสหรัฐเฉลี่ยที่ 5- 10% เวลานี้จีนลดภาษีให้สหรัฐจาก 125% เหลือ 10% ถือว่าเท่าเดิม แต่สิ่งที่จีนจะได้คือ โรงงานจีนสามารถเดินเครื่องผลิตต่อไปได้ และมีของขายในตลาดสหรัฐ คนมีงานทำเพิ่ม


จากก่อนหน้านี้ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีน (PMI) ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาลดลงต่ำกว่า 50% และในเดือนเมษายนก็น่าจะต่ำกว่า 50% ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ไม่ดี จากเดิมดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนมากกว่า 50%


อย่างไรก็ตาม หากการเจรจาระหว่างสหรัฐ-จีนไม่ได้ข้อยุติ และสหรัฐยังเก็บภาษีสินค้าจีนที่ 30% และจีนเก็บภาษีสหรัฐที่ 10% สหรัฐก็จะยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาการขาดดุลการค้ากับประเทศจีนได้ ซึ่งจะเป็นโจทย์ยากของทรัมป์ต่อไป ซึ่งในปี 2567 สหรัฐขาดดุลการค้าจีน 2.59 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หากรอบนี้สหรัฐยังเก็บภาษีสินค้าจีนที่ 30% การขาดดุลการค้าของสหรัฐที่มีต่อจีนในปีนี้ ก็น่าจะไปถึง 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ


ทั้งนี้เนื่องจากสหรัฐไปขึ้นภาษีการค้ากับประเทศคู่ค้าทั่วโลก ทำให้สหรัฐต้องซื้อสินค้าจากประเทศอื่นในราคาที่สูงขึ้น และจำเป็นยังต้องนำเข้าสินค้าจากจีน


รองศาสตราจารย์ ดร.อัทธ์ กล่าวอีกว่า การลดภาษีสินค้าของสหรัฐให้จีนเหลือ 30% และจีนลดภาษีให้สหรัฐเหลือ 10 % จะส่งผลต่อไทยอย่างไรนั้น ในเบื้องต้นมองว่า ไทยจะได้อานิสงส์การส่งออกในกลุ่มสินค้าวัตถุดิบ และกึ่งสำเร็จรูปจำเป็นที่จีนจะมีการนำเข้าจากไทยไปแปรรูปส่งออกต่อไปยังสหรัฐเพิ่มขึ้น เช่น ชิ้นส่วนโทรศัพท์ ชิ้นส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้า ยางพาราที่นำไปผลิตเป็นยางล้อรถยนต์ ชิ้นส่วนเครื่องจักรที่นำไปผลิตเป็นเครื่องจักร เป็นต้น


“ตรงนี้จีนจะมีท่อระบายสินค้าออกไปมากขึ้น ก็มีโอกาสที่ไทยจะส่งออกสินค้าไปประเทศจีนได้ดีขึ้น แต่จะไม่มีผลต่อการเจรจาระหว่างไทย-สหรัฐในเรื่องภาษีตอบโต้ที่เบื้องต้นสหรัฐจะเก็บจากเรา 36% เพราะเป็นคนละเรื่องกัน ซึ่งเวลานี้ทราบว่าไทยยังไม่มีคิวในการเจรจาเลย ขณะที่เพื่อนบ้าน เช่น เวียดนาม สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซียได้เริ่มต้นนับหนึ่งการเจรจาไปแล้ว ส่วนที่ได้คิวในการเจรจาแล้วคือ กัมพูชา”



ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ

วันที่ :  12 พฤษภาคม 2568
 
 

สำนักงาน 60 ถ.โชติวิทยะกุล 3 ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา 90110
โทรศัพท์ 0 7455 9508 , 09 5065 2772
E-mail: tla.latex@gmail.com, contact@tla-latex.org



Copyright 2006. www.tla-latex.org All rights reserved.
Powered by ME-FI dot com