การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เดินหน้าขับเคลื่อนระบบบริหารจัดการตามมาตรฐานการจัดสวนป่าอย่างยั่งยืน ในการรับรองกระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์จากไม้และการค้า (Chain of Custody Certification : CoC) ตอบสนองความต้องการและความคาดหวังของผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งชาวสวนยาง สถาบันเกษตรกร และผู้ประกอบกิจการยาง สร้างความเชื่อมั่นให้ กยท. สู่การเป็นองค์กรด้านยางพาราของไทยในระดับสากล

นายสุขทัศน์ ต่างวิริยกุล รักษาการแทนผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ภายใต้แผนยุทธศาสตร์ยางพารา 20 ปี กำหนดเป้าหมายการพัฒนาทั้งการรับรองป่าไม้ (Forest Certification) โดยแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ 

การรับรองการจัดการป่าไม้อย่างยั่งยืน (Forest Management Certification : FM) และการรับรองกระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์จากไม้และการค้า (Chain of Custody Certification : CoC) ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่กระบวนการปลูกสร้างสวนยาง เก็บเกี่ยว แปรรูป ซื้อ-ขายผลิตภัณฑ์จากยางพารา โดย กยท. ได้ดำเนินการบริหารจัดการเชิงรุกด้านธุรกิจและตลาดเข้าสู่ระบบมาตรฐาน ให้มีการซื้อขายผ่านระบบตลาดยางพาราของ กยท. จ.นครศรีธรรมราช และโรงงานของ กยท. ได้แก่ กองจัดการโรงงาน 1, กองจัดการโรงงาน 2, กองจัดการโรงงาน 6 และหน่วยธุรกิจ  โดยในปีที่ผ่านมา มีการซื้อขายยางพาราภายใต้มาตรฐานการจัดสวนป่าอย่างยั่งยืนคิดเป็นมูลค่ากว่า115 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นการพัฒนาธุรกิจอุตสาหกรรมยางพาราอย่างครบวงจร ที่คำนึงถึงการอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมควบคู่กันไป เพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงและความต้องการของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยปัจจุบันหน่วยงานของ กยท. ได้รับการตรวจประเมินแล้วว่า มีความสอดคล้องกับข้อกำหนดตามมาตรฐานและธุรกิจทั่วโลกให้ความสำคัญ โดยในปีนี้ (เมื่อ 27 ก.พ. 68) กยท. ได้รับใบรับรองเป็นปีที่ 4 ซึ่งได้รับรองกระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์จากไม้และการค้า (Chain of Custody Certification : CoC) จากบริษัท บูโรเวอริทัส เซอติฟิเคชั่น จำกัด

"กยท. จะรักษาระบบบริหารคุณภาพตามมาตรฐานสากลและมีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการและความคาดหวังของผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงขยายผลไปสู่มาตรฐานอื่นๆ เพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขันของ กยท. และมาตรฐานยางพาราของไทยในระดับสากลต่อไป" นายสุขทัศน์ กล่าวทิ้งท้าย

ที่มา : การยางแห่งประเทศไทย