ราคาน้ำมันดิบสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับขึ้นเฉลี่ย +4% แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากจีน ผสานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ยังคงแข็งแกร่ง สอดคล้องกับราคาก๊าซธรรมชาติที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน ขานรับยูเครนปิดท่อส่งก๊าซจากรัสเซียเข้าสู่ยุโรป ส่วนด้านส่วนต่างน้ำมันดีเซลยังปรับขึ้น +7% แต่สวนทางส่วนต่างน้ำมันเครื่องบินชะลอลง และส่วนต่างปิโตรเคมียังอ่อนแอ โดยมาจากทั้งราคาต้นทุนที่ขยับขึ้นตามน้ำมันดิบ และราคาขายที่ยังปรับตัวลง ดังนั้นการลงทุนกลุ่มนี้อาจเน้นพลังงานต้นน้ำเป็นหลัก (PTTEP) ส่วนด้านราคาสินค้าเกษตร ส่วนใหญ่ย่อตัวตาม Dollar Index ที่แข็งค่า โดย ราคาปาล์มดิบ -5.1%w-w, ยางพารา -3.2% และข้าวสาลี -3.2% ส่วนด้านราคาเนื้อสัตว์แนวโน้มทรงตัวถึงขยับขึ้นเล็กน้อย โดยราคาไก่ และหมู ทรงตัวในสัปดาห์ที่ผ่านมาแต่ยังมีแนวโน้มปรับขึ้นในช่วงถัดไปจากการเข้าสู่ช่วงตรุษจีนปลาย ม.ค. ส่วนราคาปลาแซลมอน +1.6% ปรับขึ้นต่อเนื่อง ดังนั้นกลุ่มเนื้อสัตว์อาจมีแรงเก็งกำไรมากขึ้น ขณะที่กลุ่มร้านอาหารอาจต้องระวังด้านราคาต้นทุน สำหรับดัชนีค่าระวางเรือ (BDI) เริ่มกลับมาฟื้นตัวในสัปดาห์ที่ผ่านมา +7.5%w-w กลับมาทะลุระดับ 1000 จุด ได้อีกครั้ง อาจเพิ่มแรงเก็งกำไรในกลุ่มเดินเรือเทกองมากขึ้น (PSL) ส่วนด้านดัชนี Container Index ก็ขยับขึ้น +1.8%w-w เช่นกัน คาดจะช่วยหนุนแรงเก็งหุ้นในกลุ่มเรือตู้ (RCL) เช่นกัน Commodity Pick : PSL ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ (11.60 บาท) - ดัชนีค่าระวางเรือต้นปีเริ่มฟื้นตัว โดยสัปดาห์ล่าสุด +7.5%w-w สู่ระดับ 1,072 จุด กลับมายืนเหนือระดับ 1,000 จุดอีกครั้ง หลังดัชนีย่อแรงในช่วงธันวาคม 2024 หนุนการเก็งกำไรมากขึ้น
- แรงกระตุ้นระยะสั้นคาดมาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากจีน ผสานกับตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯที่ยังมีแนวโน้มแข็งแกร่ง
- ขณะที่ Valuation ปัจจุบันเทรดเพียงระดับ PBV 0.6 เท่า เพิ่มความน่าสนใจในการเก็งกำไรสั้น
เครดิต : Liberator Securities
ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ |