(11 พ.ย. 68) ณ ห้องรับรอง การยางแห่งประเทศไทย สำนักงานใหญ่ การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) หรือ RAOT นำโดย ดร.เพิก เลิศวังพง รักษาการแทนผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย นายดิษฐเดช วัฒนาพร รองผู้ว่าการด้านปฏิบัติการ และผู้บริหาร กยท. ให้การต้อนรับ ดร.ธิราช รุ่งเรืองกนกกุล ผู้อำนวยการสมาคมการตลาดเพื่อการเกษตรและอาหารแห่งเอเชียแปซิฟิก (AFMA) โอกาสเข้าหารือแนวทางความร่วมมือนำร่องผลักดัน มาตรฐานยางยั่งยืน สร้างความเข้มแข็งให้เกษตรกรชาวสวนยางรายย่อย เพิ่มศักยภาพการแข่งขันของอุตสาหกรรมยางพาราไทยในตลาดโลก
ดร.เพิก เปิดเผยว่า จากเวทีการประชุม CSCAP-SSA for SCP ครั้งล่าสุด ณ องค์การสหประชาชาติ มีมติให้จัดทำ มาตรฐานเฉพาะสาขา (Sectorial Sustainability Standard) เพื่อสร้างความเชื่อมโยงระหว่างการค้า การเงิน การจัดซื้อจัดจ้าง และนวัตกรรม กับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (UN SDGs) ทาง AFMA (Agriculture and Food Marketing Association for Asia and the Pacific) ซึ่งเป็นองค์กรความร่วมมือกับสหประชาชาติ ได้เล็งเห็นว่าอุตสาหกรรมยางพาราของไทยเป็นสาขาที่มีศักยภาพสูง เหมาะสมต่อการนำร่องจัดทำ มาตรฐานยางยั่งยืน เนื่องจากยางพาราเป็นสินค้าเกษตรส่งออกหลักของไทยและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยมาตรฐานยางยั่งยืนดังกล่าวสอดคล้องกับการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมของ กยท. ที่ขับเคลื่อนมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ โครงการคาร์บอนเครดิตในสวนยาง การตรวจสอบย้อนกลับแหล่งที่มาของผลิตภัณฑ์ยางพาราให้เป็นไปตามกฎหมาย EUDR ของสหภาพยุโรป รวมถึงการจัดทำโฉนดต้นยางพารา ซึ่งการที่ทั้ง 2 หน่วยงาน ได้ร่วมกันวางแนวทางขับเคลื่อนมาตรฐานยางยั่งยืนในครั้งนี้ นับเป็นรากฐานสำคัญในการต่อยอดสู่การยกระดับมาตรฐานการผลิตยางพาราไทยที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับเทรนด์ในตลาดโลกปัจจุบัน
ดร.เพิก กล่าวเพิ่มเติมว่า กยท. มุ่งมั่นผลักดันให้เกษตรกรชาวสวนยางได้ประโยชน์สูงสุดจากการผนวกแนวคิดความยั่งยืนเข้ากับผลผลิตยางพารา หวังสร้างรายได้และมูลค่าเพิ่มในทุกขั้นตอนของห่วงโซ่การผลิต ตั้งแต่การปลูกไปจนถึงการโค่นต้นยาง เปลี่ยน Waste เป็น Value ได้อย่างแท้จริง ซึ่งในวันนี้ กยท. ยินดีอย่างยิ่งที่ได้รับความไว้วางใจจาก AFMA ให้เป็นพันธมิตรสำคัญในการขับเคลื่อนมาตรฐานยางยั่งยืน กลายเป็นเครื่องมือด้านสิ่งแวดล้อมและการสร้างกลไกทางการตลาดที่เป็นธรรม เพื่อให้ผู้ผลิตยางสามารถเข้าถึงตลาดโลกได้อย่างเท่าเทียม โดยยึดหลัก ความยั่งยืนต้องสร้างคุณค่ากลับสู่ผู้ผลิต ซึ่งในระยะต่อไป กยท. เตรียมประสานความร่วมมือกับ AFMA พร้อมภาคีเครือข่ายภาครัฐ เอกชน และสถาบันการเงิน เพื่อร่วมกันผลักดันมาตรฐานยางยั่งยืนให้เกิดเป็นรูปธรรมโดยเร็ว
ที่มา : การยางแห่งประเทศไทย |