หมวดที่ 3   สมาชิกและสมาชิกภาพ

ข้อ 5. ประเภทสมาชิก  สมาชิกของสมาคม แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ

  1. สมาชิกสามัญ ได้แก่ บุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคลที่ประกอบวิสาหกิจประเภทเกี่ยวกับการผลิตและส่งออกน้ำยางข้น ซึ่งจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย
  2. สมาชิกวิสามัญ ได้แก่ บุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคลที่ประกอบวิสาหกิจการค้าน้ำยางข้น หรือเกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมน้ำยางข้น โดยได้จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายแล้ว
  3. สมาชิกกิตติมศักดิ์ ได้แก่บุคคลธรรมดาที่ทรงคุณวุฒิ หรือบุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคลที่มีอุปการคุณแก่สมาคม ซึ่งคณะกรรมการของสมาคมมีมติให้เชิญเข้าเป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์   และบุคคลนั้นตอบรับคำเชิญ

ข้อ 6.  คุณสมบัติของสมาชิก  สมาชิกของสมาคมการค้านอกจากคุณสมบัติตามข้อ 5 แล้ว ยังต้องประกอบด้วยคุณสมบัติดังต่อไปนี้คือ

    (1)  ในกรณีที่เป็นบุคคลธรรมดา

  1. เป็นผู้บรรลุนิติภาวะแล้ว
  2. ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย บุคคลไร้ความสามารถ หรือบุคคลเสมือนไร้ความสามารถ
  3. ไม่เคยเป็นบุคคลที่เคยต้องโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดของศาลมาก่อน เว้นแต่ ความผิดลหุโทษ หรือความผิดที่อัตราโทษไม่สูงกว่าความผิดลหุโทษ หรือความผิด
    ซึ่งกระทำโดยประมาท
  4. ไม่เป็นโรคอันพึงรังเกียจแก่สังคม
  5.  เป็นผู้มีฐานะมั่นคงพอสมควร
  6.  เป็นผู้มีความประพฤติเรียบร้อย

     (2)  ในกรณีที่เป็นนิติบุคคล

  1. ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย
  2. มีฐานะมั่นคงพอสมควร
    ให้นำความในข้อ 6 (1) มาใช้บังคับแก่คุณสมบัติของผู้แทนนิติบุคคล ที่ได้รับแต่งตั้งให้มีอำนาจกระทำการแทนนิติบุคคลที่เป็นสมาชิกตามข้อ 10 ด้วย

ข้อ 7.  การสมัครเข้าเป็นสมาชิก ผู้ที่ประสงค์เข้าเป็นสมาชิกสามัญ หรือสมาชิกวิสามัญของสมาคม จะต้องยื่นความจำนงต่อเลขาธิการตามแบบพิมพ์ที่สมาคมได้กำหนดไว้ โดยมีสมาชิกสามัญเป็นผู้รับรองอย่างน้อย 2 คน

ข้อ 8.  การพิจารณาคำขอสมัครเข้าเป็นสมาชิก ให้เลขาธิการนำใบสมัครเสนอต่อที่ประชุม คณะกรรมการของสมาคมในคราวต่อไป ครั้งแรกหลังจากที่ได้รับใบสมัคร เมื่อคณะ กรรมการมีมติให้รับ หรือไม่รับ ผู้ใดเข้าเป็นสมาชิกแล้ว  ให้เลขาธิการมีหนังสือแจ้ง ให้ผู้สมัครผู้นั้นทราบภายในกำหนดเวลา 15 วัน นับแต่วันที่ได้ลงมติ

ข้อ 9.  วันเริ่มสมาชิกภาพ สมาชิกภาพเริ่มตั้งแต่วันที่คณะกรรมการมีมติรับเข้าเป็นสมาชิก

ข้อ 10.  สมาชิกที่เป็นนิติบุคคล สมาชิกที่เป็นนิติบุคคลจะต้องแต่งตั้งผู้แทน ซึ่งจะต้องเป็น บุคคลธรรมดาที่มีอำนาจกระทำการแทนนิติบุคคลนั้นได้ 1 คน หรือมากกว่า เพื่อปฏิบัติกิจการในหน้าที่ และใช้สิทธิแทนนิติบุคคลนั้น

ข้อ 11.  การขาดจากสมาชิกภาพ สมาชิกภาพย่อมสิ้นสุดลงในกรณีดังต่อไปนี้

  1. ตาย หรือสิ้นสภาพนิติบุคคล
  2. ขาดคุณสมบัติตามข้อ 5.1 หรือ 5.2 แล้วแต่กรณี
  3. ลาออก โดยยื่นหนังสือลาออกต่อคณะกรรมการ และคณะกรรมการเห็นชอบ
  4. ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้เป็นบุคคลล้มละลาย
  5. ถูกศาลสั่งให้เป็นบุคคลไร้ความสามารถ หรือบุคคลเสมือนไร้ความสามารถ
  6. ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุก เว้นแต่เป็นความผิดลหุโทษ หรือความผิดที่กำหนดโทษ ขั้นลหุโทษ หรือความผิดที่ได้กระทำโดยประมาท
  7. คณะกรรมการของสมาคมลงมติให้ลบชื่อออกจากทะเบียนสมาชิกโดยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของจำนวนกรรมการทั้งหมด ด้วยเหตุใด เหตุหนึ่งดังต่อไปนี้
    1. เจตนากระทำการใด ๆ ที่ทำให้สมาคมเสื่อมเสียชื่อเสียง
    2. เจตนาละเมิดข้อบังคับ
    3. ไม่ชำระเงินค่าบำรุงสมาคมเกินกว่า 1 ปี และได้รับใบเตือนจากเจ้าหน้าที่ครบกำหนดสามสิบวันแล้ว

ข้อ 12.  ทะเบียนสมาชิก ให้นายทะเบียนสมาคมจัดทำทะเบียนสมาชิกเก็บไว้ ณ สำนักงานของสมาคม โดยมีรายการตามที่กฎหมายกำหนดไว้